ไมโครโฟน HyperX SoloCast Gaming Microphone
สรุป ไมโครโฟน HyperX SoloCast Gaming Microphone เหมาะกับใคร ?
สำหรับไมโครโฟนสำหรับเล่นนั้น ถือว่าเป็นสินค้าอีกไลน์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จ เป็นอย่างมากจาก HyperX โดยเฉพาะเจ้าตัว Quadcast นั้นถือว่าทำผลงานเอาไว้ดีมาก ๆ ไม่วา่จะเป็นคุณภาพของเสียง การใช้งาน หรือการออกแบบ จนกวาดรางวัลระดับสากลเอาไว้พอตัวเลยทีเดียว ทำให้ปลายปี 2020 HyperX ก็ได้เปิดตัวไมค์โครโฟนตัวใหม่มาถึง 2 ตัวได้แก่ Quadcast S และ HyperX SoloCast Microphone ราคา 1890 บาทตัวนี้นี่เอง โดยเจ้า SoloCast ถูกออกแบบมาให้มีคุณภาพด้านเสียงเทียบเท่ากับ Quadcast แต่การใช้งานนั้นจะปรับลดให้เหมาะกับการใช้งานแบบคนเดียวเท่านั้น เพราะตัวไมค์ลดฟังก์ชั่นอย่างการปรับ Polar Pattern ออกไปนั่นเอง
รายละเอียดทั่วไป
ไมค์โครโฟนเกมมิ่ง HyperX SoloCast มาพร้อมกับโครงสร้างภายนอกเป็นพลาสติกแข็ง แข็งแรงทนทานต่อการกระแทกได้ดี และมีน้ำหนักเบา ซึ่งตัวไมโครโฟนนั้นมีการควบคุมการใช้งานภายนอกในตัวเพียงอย่างเดียวคือปุ่มสำหรับ Mute หรือ Active ไมค์ทำให้การใช้งานไม่ค่อยยุ่งยาก เมื่อเชื่อมต่อผ่านสาย USB-A แล้วผู้ใช้งานก็สามารถใช้งานได้ทันทีไม่ต้องลง Software เฉพาะตัว ซึ่งภายในของไมโครโฟนเกมมิ่งตัวนี้จะใช้งานไดรเวอร์รับเสียง Electret Condensor รับเสียงรูปแบบ Cardioid ในช่วง 20 - 20 kHz เหมาะสำหรับการทำงานแบบเรียบง่าย หรือรับเสียงเฉพาะจุด เช่นเสียงพูดหรือเสียงเครื่องดนตรี ทำให้สำหรับสตรีมเมอร์ที่ชื่นชอบการทำงานคนเดียว โดยคุณภาพเสียงไม่แพ้ QuadCast เลย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถประหยัดเงินได้หลายพัน หากไม่ต้องการฟีเจอร์ที่อาจจะไม่ได้ใช้งานใน QuadCast นั่นเอง
รีวิวเสียง
ไมโครโฟน HyperX SoloCast Gaming Microphone เสียงดี
โดยแนวเสียงของเจ้า HyperX SoloCast นั้นจะให้เสียงที่มีความอิ่มอุ่น เนื้อเสียงนุ่ม ฟังชัดปลายเสียงไม่แตกพร่า โดยรวมแล้วเนื้อเสียงมีความมนกว่าไมค์รุ่นพี่อย่าง QuadCast และ QuadCast S เล็กน้อย ย่านเสียงที่โดดเด่นของตัวไมค์เลยก็คือช่วงเสียงกลาง ตามมาด้วยเสียงสูง และเบสนั่นเอง ฉะนั้นการใช้งานหลัก ๆ จึงเหมาะกับการแคสเกม สตรีมเกม หรือร้องเพลงโชว์ โดยใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้นนั่นเอง